"เจ้ากรรมนายเวร"
โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
คำถามของญาติโยม ~ หลวงพ่อครับ คำว่าเจ้ากรรมนายเวรนี่หมายถึงใครบ้างครับ...?
"เจ้ากรรมนายเวรนี่..."ตัวตน" มันไม่มีหรอก"....มันเป็นเรื่องของกรรมที่เป็น "อกุศลกรรม" ที่เราทำไว้ ตัวจริงที่เราเคยทำเขาไม่มายุ่งกับเราหรอก อย่างเราฆ่าปลาตาย ปลาเขาก็ไม่มายุ่งกับเรา แต่ปรากฏของกรรมมันเล่นงานเรา ถ้าปลานั่งจองเวรคอยลงโทษเราแกก็ไม่ต้องไปเกิดล่ะ
"เจ้ากรรมนายเวร" หมายถึงบาปที่เป็นอกุศลที่เราได้ทำไว้กับคนและสัตว์ ในอดีตชาติก็ดี ในชาติปัจจุบันก็ดี อย่างบางคนที่เราฆ่าเขาบ้าง เราทำร้ายเขาบ้าง เขาอาจจะไปเกิดเป็นเทวดาหรือพรหมแล้ว ถ้าเป็นเทวดาเขาไม่สนใจแล้ว แต่ไอ้ตัวบาปที่เราทำไว้ อย่างคนที่ไปขโมยของเขา เจ้าของเขาไม่ติดใจ แต่ตำรวจมีหน้าที่ตามไม่ใช่อยากตาม แต่กฎหมายให้ตาม
ฉะนั้น กรรมหรือเวรตัวนี้คือกฎหมาย
คำว่า "เจ้ากรรมนายเวร" นี่นะ ถ้าพูดตามส่วนตัวจะว่าไม่มีก็ไม่ได้ ถ้าหากเราฝึกขั้น "สุกขวิปัสสโก" เราจะบอกว่าไม่มีตัว เพราะไม่เคยเห็น แต่ว่าตั้งแต่ "เตวิชโช" ขึ้นไปเขาเห็น ต้องพูดตามขั้นนะ ถ้าเราว่ากันตามหนังสือก็คิดว่าจะไม่มี
คำถามของญาติโยม ~ แล้วถ้าเราอุทิศส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขาจะได้รับไมคะ...?
คือว่าอุทิศส่งไปให้เขาจะได้รับหรือไม่ได้ก็ตาม บุญที่เราทำเป็นผลให้เกิดความสุข ไอ้กรรมต่างๆ ที่เป็นอกุศลที่เราทำไปแล้ว เราไปยั้งมันไม่ได้ แต่ทว่าถ้าเราทำกรรมดีมีกำลังเหนือมันก็กวดไม่ทันเหมือนกัน...
นายเวร...ตัวอย่างเรื่องมันมีอยู่ให้ได้ศึกษา...
อย่างพระถูกหอกตาย เรื่องนี้มีอยู่ในพระสูตร คือว่ามันมีอยู่ว่าพระองค์ ท่านกำลังเย็บจีวร เย็บไปๆ ไอ้ตัวเรือดมันอยู่ในตะเข็บจีวร ท่านไม่เห็น เข็มก็ไปทิ่มเรือดตาย อย่างนี้ถือว่าเป็นบาปลงนรกไม่ได้ เพราะเจตนาไม่มี ไม่รู้ว่าอยู่ ใช่ไหม?
แต่ก็เป็นบังเอิญเมื่อต่างคนต่างตาย เจ้าเรือดก็ตายไปก่อน พระก็อยู่นานไม่ได้หรอกนะ ไปเกิดชาติหลังเป็นคนด้วยกันทั้งคู่ เจ้าเรือดไปเกิดเป็นนายพรานป่าฆ่าเนื้อ พระก็ไปเกิดเป็นคน แต่ว่าบวชพระ
ต่อมาวันหนึ่ง...พระเดินสวนทางมาเจอนายพราน เห็นพรานถือหอกเกาะกะ ๆ ท่านก็นึกหวาดเสียว ดีไม่ดีแกบ้า ๆ บวม ๆ จิ้มตาย ใช่ไหม ก็เลยหลบเข้าพุ่มไม้...พรานแกฆ่าสัตว์ก็จริงแต่จิตแกก็ดี ถือว่าพระเป็นพระ แกเดินมาเข้าไปนึก เอ๊ะ...พระนี่น่าจะสวนกับเราตอนนี้ เวลานี้ท่านไปไหน หรือบางทีท่านเห็นเราถือหอกเดินมาท่านจะกลัวเรามั้ง ไอ้หอกจัญไร พุ่งไว้ตรงนี้ก่อน เลยพุ่งหอกเข้าไปในพุ่มไม้ แล้วเดินไปมือเปล่าไป ไอ้หอกระยำดันจิ้มมาที่อกพระพอดี...นี่ไอ้นี่จะถือว่าเป็นกรรมไม่ได้ ต้องถือว่าเป็นเวร ถ้ากรรมก็ดึงลงอบายภูมิ นี่เป็นเวรมาสนองกัน...
ถ้าเราทำ "กรรมดี" ให้มีกำลังเหนือบาป บาปต่าง ๆ ก็จะตามเราไม่ทันเหมือนกัน เรียกได้ว่าเป็น "การทำบุญหนีบาป...ไม่ใช่ทำบุญล้างบาป" ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ที่ไม่ทำความชั่วเลยน่ะไม่มี ดังนั้นถ้าเราจะชดใช้บาปก็คงจะชดใช้กันไม่ไหว
มีทางเดียวในกิจของพระพุทธศาสนาคือ "หนีบาป" ด้วยการปฏิบัติดังนี้
๑) การคิดถึงคุณพระรัตนตรัยคือ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระอริยสงฆคุณ
๒) ทรงศีล ๕ ให้บริสุทธิ์
๓) มีพรหมวิหาร ๔ ให้ครบถ้วน
๔) มีอิทธิบาท ๔ ทรงตัว
๕) มีการภาวนาให้จิตทรงตัว
๖) พยายามรวบรวมบารมี ๑๐ ประการให้มีในจิตให้ครบถ้วน
๗) พยายามตัดสังโยชน์ ๑๐ ประการให้หมด
๘) จรณะ ๑๕ ปฏิบัติให้ครบถ้วน
เมื่อมีการทรงตัวดังกล่าวมาแล้วนี้ได้ทั้งหมด ก็เป็นอันว่าไม่ต้องเกิดกันอีกต่อไป นั่นคือตายเมื่อใดก็ไปพระนิพพานอันเป็นแดนที่มีความสุขที่สุด.."
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น