วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[เรื่องเล่าของพระธุดงค์] พระป่าผู้ลึกลับ


พระป่าผู้ลึกลับ


"พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ"

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมได้ยินได้ฟังมาจาก หลวงตารูปหนึ่ง ณ.ที่วัดที่อำเภอ ศรีราชา ขณะนี้ท่านเองยังมีชีวิตอยู่เป็นภิกษุผู้มีวัยเกือบ ๘๐ ท่านเป็นภิกษุผู้เคร่งในศีลน่าเคารพมาก การสวดมนต์ท่านสามารถท่องบทสวดหนังสือมนต์พิธีได้ทั้งเล่มรวมถึงบทปาฎิโมกข์ด้วย

เรื่องมีอยู่ว่า ท่านเป็นผู้ที่บวชเมื่ออายุมาก ตอนพรรษาต้นๆ ปี ๒๕๓๒ ท่านได้เดินทางไปที่ถำ้ผาจม จ.เชียงรายและได้พบกับคณะพระธุดงธ์คณะหนึ่งกำลังหาพระภิกษุร่วมเดินทางไปประเทศอินเดียให้ครบเก้ารูปเพื่อสักการะสังเวชสถานทั้งสี่ตำบล ท่านจึงตอบตกลงร่วมคณะเดินทางไป วิธีการเดินทาง คือ การเดินเท้าข้ามประเทศพม่าและต้องหลบหลีกเจ้าหน้าที่ของพม่าด้วยเนื่องจากเวลาขณะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศยังไม่ราบรื่นนัก เอกสารหลักฐานคือใบสุทธิเพียงอย่างเดียว

ปัจจัยเงินทองทั้งหมดไม่รับ ทั้งหมดต่างปวารณาถือธุดงธ์ควัตรเอาชีวิตเป็นเดิมพัน การเดินทางจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่าไม่เคยได้กินอิ่ม อดข้าวเป็นเรื่องปกติ 2วันบ้าง 4วันบ้าง แต่กระนั้นทุกรูปยังคงความสามัคคี ไม่มีใครท้อทอยหรือแสดงความเห็นแก่ตัวตามวิสัยปุถุชนออกมา

จนกระทั่งถึงขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์ ทุกรูปเดินเท้าอย่างหมดแรง กลางป่าลึก หาบ้านคนไม่ได้ ต่างคิดว่าตายแน่ ๆ เอาชีวิตมาทิ้งแล้วหนอ

พลันสายตาทุกรูป เห็น บุรุษผู้หนึ่งรูปร่างผอม นุ่งผ้าสีย้อมฝาดขมุกขมอมผืนเดียว ผมยาวประมาณ ๑ ฝ่ามือ ที่ไหล่สะพายข้องจับปลา ที่มือถือไม้แหลม กำลังก้มหน้าก้มตาเอาไม้แหลมแทงลงในซอกหิน เหมือนคนกำลังหาปลา ทุกครั้งที่เสียบลงไปจะมีปลาดิ้น ติดมาที่ไม้แหลมทุกครั้ง

พระทุกรูปเห็นแล้วก็คิดในใจว่า..."พระหรือคนบ้าหนอ" 

แค่คิดในใจ ท่านก็ตะโกนออกมาว่า... "ก็พระซีว่ะ" 

แล้วพระทุกรูปคิดต่อในใจว่า..."ทำไมเป็นพระแล้วแต่งกายแบบนี้?" 

ท่านก็ตะโกนสวนออกมาว่า... "แล้วการเป็นพระ...มันอยู่ที่หัว..เหรอ?" มันอยู่ที่...จีวรเครื่องนุ่ง...เหรอ?" 

หลวงตาก็เลยพูดขึ้นว่า..."แล้วเป็นพระทำไมฆ่าสัตว์ต้ดชีวิตล่ะ?" 

ท่านก็เดินเข้ามา...แล้วทำท่าเหมือนโกรธ ขว้างข้องจับปลาลงกับพื้น แล้วบอก "กูไม่ทำก็ได้ว่ะ" 

ปรากฏว่า...ในข้องกลายเป็นรากไม้ทั้งหมด แล้วท่านก็พูดต่อ..."กะว่ามากันเหนื่อย ๆ จะต้มยาให้กินเสียหน่อย" 

พระภิกษุทุกรูป จึงก้มกราบ ขอขมากรรม ณ ที่ตรงนั้น

ท่านจึงพาทุกคนไปในถำ้ที่พักของท่าน ตอนไปนี่แปลก ทุกคนเหมือนไม่ได้เดิน หรือออกแรงกันเลย พอถึงที่พัก   ท่านนำอาหารมาให้ทานก็แปลกอีก...

อาหารแม้เพียงน้อยแต่ทุกคนกลับอิ่มพอดี กำลังวังชากลับเป็นปกติอย่างเหลือเชื่อ โรคที่หลวงตาเป็นก็เหมือนจะหายไปเลย แล้วท่านก็ออกมาสนทนาธรรมกับทุกคน

ท่านบอกว่า..."ดีนะที่เจอท่าน มิฉะนั้นต้องมีคนตาย อย่างแน่นอน" 

พระภิกษุรูปหนึ่งกล่าวว่า..."ถ้ารอดไปได้จะกลับมากราบท่านอีก" 

ท่านกล่าวว่า..."ทุกท่านจะเจอกับผมครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย" แล้วก็ทำนายทายทักทุกคน ซึ่งก็เป็นไปตามคำทำนายทุกประการ

ครั้นพอถึงรุ่งเช้า ท่านก็บอกว่า..."ให้เดินทางไปตามเส้นทางนี้นะ แล้วจะรอด" 

ทุกรูปก็เดินไปตามที่ท่านบอก ก็พบทางรอดจริง ๆ คือ ไปเจอกับทหารพม่า แล้วก็ถูกควบคุมต้วส่งกลับชายแดนไทยทั้งหมด ช่วงถึงชายแดนนั้น ทุกรูปพึ่งคิดได้คือ...

พวกท่านอยู่ใจกลางป่าลึกของประเทศพม่า ค่อนข้างไปทาง บังคลาเทศ แล้วทำไมภิกษุรูปนั้นถึงพูดภาษากลางชัดเจนขนาดนั้น?

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง บุคคลที่เกี่ยวข้องยังมีชีวตอยู่ ผู้พูดเป็นภิกษุผู้มีศีลอันงดงาม แต่ขอปิดชื่อ ที่อยู่ไว้ ไม่อยากให้ใครไปรบกวนสมณะธรรมของท่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น